ครั้งแรกของเทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้า เจาะ 4 กลยุทธ์ ‘Skytrain Music Fest’ ชูจุดขายความใกล้ชิดบนพื้นที่พบปะศิลปินแห่งใหม่ !

หมวด: เทรนด์
Copied to clipboard.

ช่วงสิ้นปีและปีใหม่ที่ผ่านมานี้ เรียกว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่ ‘คอนเสิร์ต’ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตในเมือง บนเขา หรือริมชายหาด เพื่อน ๆ คนรักเสียงดนตรีก็ต้องตามไปเก็บความสนุกครบทุกที่แล้วแน่นอน

แต่จะมีใครเคยชมคอนเสิร์ตบน ‘รถไฟฟ้า’ บ้าง ! นี่คือครั้งแรกของประเทศไทยและเอเชีย กับงาน ‘Skytrain Music Fest’ เทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้า BTS ที่ได้สร้างความฮือฮาและส่งความสนุกไปเมื่อวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา


1. เปิดประสบการณ์ ‘Music & Fan Meet’ ทำลายกรอบคอนเสิร์ตเดิม ๆ

ถ้าเรานึกถึง ‘เทศกาลดนตรี’ ก็คืองานที่รวบรวมศิลปินมากความสามารถมาแสดงโชว์ทั้งร้อง เต้น เล่นดนตรีบนเวที เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนคลับทุกคนผ่านเสียงเพลง ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีและความสนุก

แต่สำหรับงาน ‘Skytrain Music Fest’ นั้นเป็นการรวม Music และ Fan Meet เข้าด้วยกัน ครีเอตเป็นเทศกาลดนตรีที่ยังคงเต็มไปด้วยเสียงเพลง แต่เหล่าแฟนคลับจะสามารถขยับเข้ามาใกล้ชิดกับศิลปินได้มากขึ้น

นอกจากจะเป็นการทำลายขีดจำกัดของคอนเสิร์ตแบบเดิม ๆ แล้ว ยังสร้างความฮือฮาให้กับกลุ่มผู้บริโภคคนรักเสียงเพลงในประเทศไทย ในยุคที่เต็มไปด้วยงานคอนเสิร์ตมากมาย ให้เกิดความรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นอีกครั้ง !


2. จุดพลังสุดครีเอตของ 8 พันธมิตรชั้นนำ ยกเทศกาลดนตรีขึ้นขบวนรถไฟฟ้า

นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบิ๊กโปรเจกต์อย่าง ‘Skytrain Music Fest’ เทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้าครั้งแรกของฝั่งเอเชีย ! พร้อมพา 7 ศิลปินไทยแห่งยุค ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตแบบจัดเต็ม 7 รอบ 7 ขบวน

โดยงานนี้ก็เกิดจากการรวมพลังของ 8 พันธมิตรชั้นนำทั้งฝั่งการตลาดและดนตรี ที่ใช้กลยุทธ์ Music Marketing มาสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำผ่านเสียงดนตรีบนพื้นที่แห่งใหม่ ได้แก่

  • บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท กู๊ดธิงแฮพเพ่น จำกัด 
  • บริษัท แซ๊ป เวิลด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
  • XOXO Entertainment 
  • LOVEiS ENTERTAINMENT 
  • Warner Music Thailand
  • Boxx Music
  • What The Duck

แน่นอนว่างานนี้ก็ได้รับความสนใจและการพูดถึงบนโลกโซเชียลอย่างล้นหลาม ! จากยอดผู้ใช้แฮชแท็ก #SkyTrainMusicFest ไปกว่า 120,000 ครั้ง จนติดเทรนด์บน X ประเทศไทย ไม่ใช่เพราะความแปลกใหม่ของสถานที่เท่านั้น แต่เป็นการเสพประสบการณ์ดนตรีบนรถไฟฟ้า ที่สามารถฟังเพลงและชมการแสดงของศิลปินได้แบบเต็มอรรถรสอีกด้วย


3. ตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ที่แข็งแรง พร้อมต่อยอดเป็นภาพจำครั้งใหม่

นอกจากประสบการณ์ใหม่ที่ผู้บริโภคได้รับแล้ว ในฝั่งของแบรนด์และธุรกิจก็ได้ ‘พื้นที่ใหม่’ ในการสร้างการรับรู้และภาพจำที่แข็งแกร่ง ผ่านแบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ใจดีในแต่ละขบวน ไม่ว่าจะเป็น

  • Asset Wise 
  • Birdy 
  • Shinkanzen 
  • Est 
  • MAMA OK 
  • Hello 4 EVE 
  • Krungthai AXA 

โดยในช่วงคอนเสิร์ตของศิลปินแต่ละคน ก็จะมีการฉายภาพโฆษณาของแต่ละแบรนด์ กิจกรรมพิเศษ แถมยังมีการแจกสินค้าจากศิลปินให้แฟนคลับอีกด้วย เรียกว่าแบรนด์ก็วิน คนดูก็ฟินไปตาม ๆ กัน !


4. ใช้ความใกล้ชิดเจาะใจแฟนคลับชาวไทย สานต่อเป็น Loyalty รูปแบบใหม่ 

Skytrain Music Fest จึงไม่ใช่แค่เทศกาลดนตรี แต่เป็น ‘Art scene’ หรือพื้นที่เสพศิลปะทางดนตรีที่อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนได้การตอบรับจากแฟนคลับชาวไทยอย่างล้นหลาม

ซึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จ ก็คือการใช้ ‘ความใกล้ชิด’ มาเป็นจุดขายหลัก จากเดิมที่งานคอนเสิร์ตคือการเฝ้ามองศิลปินบนเวที สู่การได้อยู่บนรถไฟฟ้าขบวนเดียวกัน แล้วสนุกไปพร้อมกันได้ !

ความใกล้ชิดนี้จึงกระตุ้นให้เหล่าแฟนคลับเกิด Loyalty ต่องานคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่ เกิดความสัมพันธ์ทางใจที่แน่นแฟ้นกับศิลปินมากขึ้น ไปจนถึงเกิดการจดจำคาแรกเตอร์ของแบรนด์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง