VGI Group โชว์รายได้ไตรมาส 1 ปี 2562/63 1,392 ล้านบาท พุ่ง 24.5% และกำไรสุทธิ 304 ล้านบาท เติบโต 16.3%

บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (“VGI”) ผู้นำ Offline-to-Online (“O2O”) Solutions บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ประกาศส่งมอบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 ประจำปี 2562/63 ยังแรงต่อเนื่อง โดยทำรายได้รวมถึง 1,392 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% กำไรสุทธิ เติบโต16.3% เป็น 304 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามหากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงาน บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิที่ 325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

คุณ เนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมาเราได้เปลี่ยนจากการเป็นผู้ให้บริการด้านสื่อโฆษณานอกบ้านเพียงอย่างเดียวไปสู่ผู้ให้บริการด้านออฟไลน์สู่ออนไลน์ (O2O Solutions) ที่ครบวงจร และเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยงแปลงในจุดยืนของธุรกิจที่มีหลากหลายแพลตฟอร์มรวมอยู่ในแบรนด์เดียว บริษัทฯ จึงได้ทำการเปลี่ยนโลโก้และชื่ออย่างเป็นทางการจาก บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา

ธุรกิจสื่อโฆษณา เรามุ่งสร้าง synergy ภายใต้อีโคซิสเต็ม (ecosystem) โดยการร่วมมือกับ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (“PlanB”) รวมแพคเกจการขายสื่อโฆษณาดิจิทัลของทั้ง 2 บริษัท บนพื้นที่สื่อที่ครอบคลุมกรุงเทพมหานครมากกว่า 80% ภายใต้แคมเปญ  Bangkok Takeover ซึ่งแต่ละเดือนทั้งเมืองจะถูกย้อมด้วยโฆษณาเพียงแบรนด์เดียวในช่วงเวลา prime  time หรือช่วงเวลาที่มีผู้คนเดินทางมากที่สุดเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง สามารถดึงดูดสายของผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรไปมาทั่วเมืองได้มากกว่า 9 ล้านคนครอบคลุมทุกวิธีการเดินทางของผู้บริโภค โดยการร่วมมือนี้จะช่วยให้นักโฆษณาหรือนักสื่อสารการตลาดสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาได้อย่างไร้ขีดจำกัด  ล่าสุดแคมเปญนี้เรียกความสนใจจากแบรนด์ได้เป็นอย่างมาก มีการจองลงสื่อโฆษณายาวจนถึงสิ้นปีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ VGI ยังได้เริ่มเปิดตัวสื่อโฆษณาดิจิทัลรูปแบบใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้ชื่อ  ‘VGI  Immerse’ จำนวน  40  หน้าจอ ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่นของขนาดหน้าจอที่กว้างถึง  45  เมตร ดึงดูดความสนใจอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้แก่ สถานีช่องนนทรี,  อโศก,  พร้อมพงษ์ และศาลาแดง  VGI Immerse ถือเป็นนวัตกรรมสื่อโฆษณาที่จะยกระดับรูปแบบการโฆษณาให้แบรนด์ได้แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์และโดดเด่น  ดึงดูดความสนใจได้มากยิ่งขึ้นด้วยคุณภาพของการแสดงภาพ เสียง และรองรับความครีเอทีฟของชิ้นงานโฆษณา 

VGI ได้เริ่มนำเสนอโซลูชั่นส์การตลาดออนไลน์เพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีงบประมาณการจับจ่ายใช้สอยกว่า 580 พันล้านบาท โดยร่วมกับ iClick  Interactive  Asia  Group  Limited  (“iClick”)  จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ  บริษัท  วี-คลิ๊ก  เทคโนโลยี  จำกัด  (“V-Click”)  นำจุดแข็งของสื่อดิจิทัลและเครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวางของทั้งสองบริษัท ผลักดันแบรนด์ในภูมิภาคให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนผ่านการทำการตลาดแบบดิจิทัลของ  iClick  ที่มีฐานลูกค้ามากกว่า  780  ล้านผู้ใช้งาน

สำหรับไตรมาสนี้ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้อยู่ที่ 946 ล้านบาท ลดลง 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุมาจากโครงการปรับปรุงสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนและสื่อสตรีทเฟอร์นิเจอร์ของ MACO อย่างไรก็ตามบริษัทฯ คาดว่าธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านจะได้รับประโยชน์จาก synergy กับ PlanB ในการร่วมจัดแพคเกจการขายในโปรเจค ‘Bangkok Takeover’ ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 รวมทั้งการเปิดให้บริการของสื่อดิจิทัลบริเวณต่อม่อสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสของ MACO ที่ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์และเริ่มเปิดการขายไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ธุรกิจบริการชำระเงิน สร้างรายได้พุ่งสูงถึง  445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องมาจากการควบรวมงบการเงินของกลุ่มทรานส์.แอด โดย MACO ทั้งนี้ยังได้รับประโยชน์จากการเติบโตของกลุ่มแรบบิทซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้การบริหารโครงการและรายได้จาก Lead Generation โดยปัจจุบัน บัตรแรบบิทมีจำนวนผู้ใช้งาน 11.5 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 3.9% จากเดือนมีนาคม 2562 และภายหลังจากร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพทำให้ปัจจุบันแรบบิทไลน์เพย์มีผู้ใช้บริการมากกว่า 6.0 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.5% ในไตรมาส 1 ปี 2562/63

ธุรกิจโลจิสติกส์   เพิ่มบริการจัดส่งของ Kerry บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเปิดให้บริการบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส    3 สถานี ได้แก่ สถานีพร้อมพงษ์, ทองหล่อ และศาลาแดง ซึ่งเราคาดว่าจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมที่ถานีสยามภายใน ไตรมาส 2 ปี 2562/63 นี้

“VGI สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นได้อีกหนึ่งไตรมาส รวมถึงจำนวนผู้ใช้บริการชำระเงิน และการประสบความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันบนทุกแพลตฟอร์มภายใต้อีโคซิสเต็ม (ecosystem) ของบริษัทฯ ทำให้เราสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของเราได้พร้อมทั้งขยายสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงโซลูชั่นส์การตลาดออนไลน์ที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ VGI Digital Lab ที่มุ่งเน้นการตลาดออนไลน์และดิจิทัลในประเทศไทยและประเทศจีน จากการลงทุนเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ช่วยขยายฐานตลาดเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับบริษัท เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวต่อไป” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าว