
13 กุมภาพันธ์ 2568
VGI ปิดไตรมาส 3/2567 แข็งแกร่ง รายได้แตะ 1,446 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 109.2% เดินหน้าต่อยอดอีโคซิสเต็มโฆษณา-บริการด้านดิจิทัล-การจัดจำหน่าย
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (“VGI”) ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (“O2O”) โซลูชั่นส์ ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567/68 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) โดยมีรายได้รวม 1,446 ล้านบาท เติบโต 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของธุรกิจสื่อโฆษณาและบริการด้านดิจิทัล ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 308 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 109.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และ 294.3% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 21.3% ตอกย้ำศักยภาพในการบริหารต้นทุนและความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากแพลตฟอร์มธุรกิจ
คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ VGI กล่าวว่า การเติบโตของบริษัทในไตรมาสนี้สะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ผ่านเครือข่ายสื่อโฆษณาที่ทรงพลังและแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครบวงจร ส่งให้ ธุรกิจสื่อโฆษณา มีรายได้ 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการใช้สื่อเพิ่มขึ้นเป็น 61.1% จาก 56.8% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายการเข้าถึงผู้บริโภคผ่าน
กลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ เช่น SkyTrain Music Fest คอนเสิร์ตบนรถไฟฟ้า BTS ครั้งแรกของไทย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีบนโซเชียลมีเดียและทำให้สื่อของ VGI มีความโดดเด่นและน่าสนใจต่อแบรนด์ นอกจากนี้ แพ็กเกจโฆษณา Super BKK และ Super BTS ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้า ด้วยจุดแข็งในการผสานสื่อโฆษณาหลายประเภทเข้าด้วยกันเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมกว่า 80% ของประชากรในกรุงเทพฯ และการเป็นสื่อความถี่สูงบนรถไฟฟ้าที่เน้นการสร้างการจดจำในแบรนด์
ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มีรายได้ 444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจาก Rabbit Cash ที่มีรายได้จากดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อดิจิทัล ขณะที่ Rabbit Care มีรายได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยเพิ่มขึ้น ด้าน Rabbit Card ปัจจุบันมีจำนวนบัตรที่เปิดใช้งานแล้ว 19.3 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 11.1% YoY และได้เปิดตัว Rabbit Card คอลเลกชันพิเศษ รุ่น มหามงคล เพื่อกระตุ้นการสมัครใช้งานร่วมด้วย
ในขณะที่ ธุรกิจการจัดจำหน่าย มีรายได้ 293 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.8% YoY โดยรายได้ของ Fanslink ลดลงซึ่งเกิดจากการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์โดยมุ่งเน้นสินค้าแบรนด์ตัวเองที่มีอัตรากำไรสูงกว่าสินค้าแบรนด์อื่น อย่างไรก็ตาม รายได้จาก TURTLE ปรับตัวดีขึ้นจากการขยายสาขาเพิ่มเป็น 26 ร้าน ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในไตรมาสที่ 3 2567/68 บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุนจำนวน 13,208 ล้านบาทให้กับนักลงทุน 4 ราย เป็นที่แล้วเสร็จ และบริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ VGI-W4 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ในวันที่ 3 กันยายน 2568
นอกจากนั้น VGI จะเข้าทำสัญญาจ้างบริหารการขายสื่อโฆษณากับบริษัทแห่งหนึ่งเป็นเวลาประมาณ 5 ปี โดย VGI จะจ่ายค่าตอบแทนตามอัตราที่กำหนดร่วมกันในสัญญา โดยการเข้าทำสัญญาจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของคู่สัญญาอีกฝ่าย และ VGI จะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด จำนวนไม่เกิน 142.9 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 7.0 บาท รวมเป็นเงิน 1.0 พันล้านบาท โดยการได้มาซึ่งหุ้นสามัญเพิ่มทุนจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของคู่สัญญาอีกฝ่าย
สำหรับการดำเนินงานในอนาคต VGI ยังคงเดินหน้าสู่อนาคตด้วยความมั่นใจ ว่าภาพรวมเศรษฐกิจและการบริโภคที่ฟื้นตัว จะช่วยกระตุ้นงบโฆษณาของภาคธุรกิจ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างยอดขายในปี 2567/68 ที่ 5,500 – 6,000 ล้านบาท ตามที่ได้วางแผนไว้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติม